
Review : Timeline จดหมาย-ความทรงจำ
ผ่านพ้นไปแล้วกับเทศกาลแห่งความรัก นั่นคือเทศหาลวันวาเลนไทน์นั้นเอง ปีนี้พิเศษสุดๆ เพราะ 14 กุมภาพันธ์ ปีนี้ตรงกันวันมาฆบูชาตรงเป๊ะ คราวนี้เราก็ชวนแฟนหรือคนรักไปทำบุญด้วยกันซะเลย สำหรับคนโสดก็ไม่ต้องน้อยใจไป (ผู้เขียนก็โสดนะฮ๊าบบ) ก็ชวนเพื่อนไปเที่ยวก็ได้ เมื่อวานได้มีโอกาสไปดูหนังรักโรแมนติก ตั้งใจจะไปดู เจมส์ จิ อยู่แล้ว เพราะชื่นชอบในความหล่อ (บอกเลย) และชอบนักแสดงทั้ง เต้ย พี่ป๊อก และผู้กำกับ เพราะเป็นวันแห่งความรักแหละ คนเลยเยอะมาก ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
เริ่มเรื่องก็จะเป็นการปูเรื่องความสัมพันธ์แม่ลูกของ มัท และ แทน การเจริญเติบโตของแทน ที่มีแม่ คอยทำให้หน้าที่ทั้งพ่อ และแม่ในเวลาเดียวกัน มัทเป็นผู้หญิงเก่ง ดูแลทุกอย่างภายในไร่ แบกภาระทุกย่าง มัท รักแทนมาก เพราะแทนเปรียบเสมือนตัวแทนของสามีที่จากไป ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นบรรยากาศของป่า และภูเขาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสถานที่สวยมาก และการใช้จักรยานเป็นพาหนะหลัก เมื่อแทนเติบโตขึ้นก็ถึงจุดเปลี่ยนไปตามชีวิตวัยรุ่น แทนได้พบเพื่อนใหม่ คือ จูน (เต้ย) หนังเล่าถึงการเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งหนังถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี นำเสนอในหลายแง่มุม และเริ่มมีความรัก การแอบชอบ แอบรัก ความฝัน ความหวัง ในช่วงนี้ตัวละคร จูน จะเด่นมาก ซึ่ง เต้ย แสดงออกมาดีมาก ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ ถึงจะไม่ค่อยมีบทพูดแต่การแสดงสีหน้า และอารมณ์ของตัวละครทำให้ผู้ชมรับรู้ได้ว่าจูนกำลังคิดอะไร เจมส์ จิ ก็แสดงดีมากจนเกินเป้าที่คาดหวังไว้มาก มาเติมเต็มตัวละครของแทน ตอนจบหนังจะค่อยๆ ทุบหัวใจคนดูทีละน้อย เมื่อถึงตอนจบ ผู้ชมก็น้ำตาอาบแก้มกันเป็นแถว ซึ้งกินใจมาก ยิ่งเพลงไกลแค่ไหนคือใกล้ยิ่งแล้ว ขยี้ใจผู้ชมเข้าไปใหญ่ เพราะเนื้อาหของเพลงเข้ากับหนังมาก (อินอ่ะ)
เราทุกคนจะเคยเฝ้าถามหาความรักว่าใครรักเราที่สุด? แต่กลับลืมมองคนรอบตัวไป เหมือนเราเป็นคนที่ตัวสูงและตัวใหญ่มาก มองไปข้างหน้าอย่างเดียว เห็นแต่คนยืนอยู่ตรงนู้น สวยดี นิสัยดี แต่ไม่มองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณเลย คนที่คอยจะปลอบคอยให้กำลังในวันที่เราอ่อนแอที่สุด หนังสื่อให้เราพยายามตามหาความฝัน และหาให้เจอ จงพยายามทำตามฝันของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ เพราะเราจะไม่มีวันย้อนกลับมากได้อีก วันเวลามีแต่ที่จะเดินไปข้างหน้า ถ้าถ้าถึงวันนั้นเราอาจจะต้องมาเสียใจที่ไม่ได้ทำมัน