
เตือน เล่นโทรศัพท์มาก เสี่ยงเป็น iPhone Pinky
iPhone Pinky นิ้วก้อยมีปัญหาจากการใช้โทรศัพท์มือถือ
การใช้โทรศัพท์มือถือในรูปแบบSmart Phone ทำให้รูปแบบการถือโทรศัพท์ของคนเราเปลี่ยนไป
จากแต่ก่อนเป็นการกำคุยแนบหู เปลี่ยนมาเป็นการถือโดยเอาโทรศัพท์ตั้งตรง เอานิ้วก้อยเป็นฐานพัก จากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือเลื่อนหน้าจอขึ้นลง และใช้มืออีกข้างกดๆจิ้มๆ
โทรศัพท์SmartPhone มีน้ำหนักต่างๆกัน แต่หนักมากกว่า 100 กรัม
การถือในท่าตั้งเป็นเวลานานๆก็จะทำให้เกิดแรงกดลงมาที่ข้อนิ้วข้อสุดท้ายของนิ้วก้อย ทำให้นิ้วตรงนั้นเกิดอาการผิดปกติได้เล็กน้อย
อาการที่มีได้จาก iPhone Pinky ก็คือ
1. เจ็บตรงขอบนิ้วก้อยด้านในที่บริเวณข้อสุดท้าย บางครั้งกดมากๆจะทำให้นิ้วดูเบี้ยวไปนิดนึง
2. เกิดอาการปวดล้าข้อนิ้วก้อยได้ เวลากำเหยียดจะรู้สึกเจ็บแปลบๆ
3. ในบางรายที่เป็นมาก จะเกิดอาการชาที่ปลายนิ้วก้อยด้านใน เพราะจุดที่โดนกดทับเป็นตำแหน่งของเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว
การรักษา คือ
1. เปลี่ยนวิธีการใช้สมาร์ทโฟน อาจจะใช้การวางบนอุ้งมือแล้วเอามืออีกข้างกด หรือวางบนโต๊ะแล้วกด .... ซึ่งท่านจะหายจากiPhone Pinky แต่ว่าจะได้โรคText Neckมาแทนเพราะต้องก้มคอมาก
2. งดการใช้สมาร์ทโฟนครับ
3. ถ้ามีอาการชา ใช้เวลา1-2เดือนก็หายเอง ส่วนอาการเจ็บ 1 สัปดาห์ก็หายแล้ว
สำหรับที่มันได้ชื่อว่า iPhone Pinky เพราะว่าอาการนี้มีคนพูดถึงครั้งแรกช่วง iPhone 1st gen ที่หนัก 1.3 ขีด และขนาดหน้าจอใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือตัวอื่นนิดนึง ทำให้คนต้องเปลี่ยนวิธีถือโทรศัพท์มาเป็นแบบใช้นิ้วก้อยรองด้านล่างกัน
ปัจจุบัน โทรศัพท์อื่นๆ ขยายหน้าจอมาหมดแล้ว แต่ชื่อ iPhone Pinky ดูเหมือนจะนิยมมากกว่า Mobile pinky