
10 ท่านอน คู่รักบอกความหมาย
แบบสปูน นอนหันหน้าไปทางเดียวกัน ผู้ชายโอบกอดผู้หญิงไว้จากด้านหลัง
ท่านอนของคู่รักจะเป็นแบบสปูน ซึ่งแสดงว่าฝ่ายชายมีความเป็นผู้นำ ต้องการที่จะปกป้องผู้หญิงที่ตัวเองรัก และมีความมั่นคงในความสัมพันธ์
แบบเดอะเชส นอนหันหน้าไปทางเดียวกัน ผู้หญิงโอบกอดผู้ชายไว้จากด้านหลัง
ถ้านี้ฝ่ายหญิงจะเป็นคนโอบกอดฝ่ายชายจากด้านหลัง นั้นก็แสดงว่าผู้หญิงต้องการเป็นผู้นำ และต้องการให้อีกฝ่ายรักตนเอง
แบบเดอะแทงเกิร์ล แบบนอนตระคองกอดเกี่ยว
ท่านอนแบบนี้เห็นได้น้อยมาก! ส่วนใหญ่คู่รักที่นอนแบบนี้คือตอนที่ไปฮอร์นีมูนกัน หรือเป็นช่วงแต่งงานใหม่ๆ รักยังหวานชื่นอยู่ และแสดงให้เห็นว่าคู่ของคุณต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน รักกันดีแบบนี้ตลอดไป
แบบลิเบอร์ตี้ นอนหันหลังให้กัน ซึ่งมันจะหมายถึงทั้งสองคนให้เกียรติกันและกันรวมทั้งสองคนยังรู้จักนิสัยกันดีอีกด้วย
ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มที่จะมีระยะห่าง ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ละคนยังรู้สึกเชื่อมต่อกัน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นอิสระจากกันมากพอที่จะนอนห่างกันได้ และยอมรับในพฤติกรรมการนอนของคนรักได้
แบบเดอะแบล็ค คิสเซอร์ หันหลังแต่ก้นยังชิด
ถ้าคุณและเขานอนท่าหันหลังให้กันแต่ก้นยังชิดกันอยู่ก็แสดงว่าเป็นท่าที่แต่ละฝ่ายต่างรู้สึกสบาย ๆ ต่อกัน ทั้งยังรู้สึกถึงความใกล้ชิด แต่ยังรักกันดี
แบบเดอะ โรแมนติก (ผู้หญิงนอนแนบข้าง ใบหน้าซบอก ฝ่ายชายโอบไหล่
เป็นท่านอนที่ฝ่ายหญิงอยู่ในอ้อมแขนของฝ่ายชาย ส่วนขาก็ไขว่กัน แสดงว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองหวานชื่น ท่านอนยอดฮิต แสดงออกถึงรักที่สดใหม่ หรือรักที่เต็มไปด้วยความปรารถนา และแสดงให้เห็นว่าฝ่ายหญิงเชื่อใจที่จะให้ผู้ชายคนนี้ปกป้องดูแล
แบบเดอะเลคฮัก ผู้หญิงนอนคว่ำ แต่แขนฝ่ายชายยังกอดอยู่
ถ้าคุณนอนท่านี้แสดงว่า ความสัมพันธ์ที่มีความห่วงใยซึ่งกันและกัน แต่ก็ไม่ตีกรอบให้คนรักได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และไม่ต้องการพลาดจากัน
แบบเดอะสเปซฮ็อก
ถ้าอีกฝ่ายนอนแบบในรูปนี้ แสดงว่าทั้งคู่มีความเห็นแก่ตัว เพราะไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีที่นอนหรือเปล่า หรืออีกความหมายหนึ่งแสดงว่าความรักของคุณและเขาค่อนข้างจืดจาง
แบบเดอะรูสสปูน นอนหันหน้าไปทางเดียวกัน ผู้ชายโอบกอดผู้หญิงไว้จากด้านหลัง แต่มีระยะห่าง ไม่นอนแนบชิดกัน
บางเวลาก็เริ่มเบื่อที่จะต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ทั้งคู่อยากมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าอยากจะเลิกกันหรืออะไร ความรักของคุณทั้งคู่ยังมั่นคงอยู่ ความรักของคู่คุณอาจจะไม่ได้หวานเท่ากับคู่แรก แต่ฝ่ายชายก็ยังคง "ต้องการปกป้อง" ฝ่ายหญิงอยู่
แบบเดอะอันลาเวริ่ง น็อต
ท่านี้เปรียบเสมือนทั้งคู่ต้องการที่จะเดินจับมือไปด้วยกัน และอยากให้ความสัมพันธ์แนบชิดกว่าเดิม แต่ยังต้องมีช่องว่างให้กันบ้าง
http://www.manyum.com/