
แม่เด็ก 4 ขวบนำสีไปทารถเพื่อนบ้าน แจ้งความคู่กรณีหลังโพสต์บิดเบือน!
จากกรณี เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้ใช้ facebook รายหนึ่ง โพสต์ภาพรถเก๋งสีแดง ที่มีร่องรอยถูกสีเหลืองป้าย จนเลอะเทอะทั่วทั้งคัน โดยผู้โพสต์ระบุว่า เป็นฝีมือของเด็กคนหนึ่ง ที่เล่นซน เอาสีทาบ้านมาป้ายรถของตน แต่เมื่อไปแจ้งกับแม่ของเด็ก แม่กลับบอกว่าลูกไม่ได้ทำ ทั้งๆที่เด็กมีสีเหลืองเลอะทั้งตัว แม้จะไปแจ้งตำรวจ ตำรวจก็บอกว่าให้เอาหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอมายืนยัน ผู้โพสต์ยังระบุอีกว่า “สังคมป่วยเพราะมีคนแบบนี้มากขึ้นทุกวัน เห็นแก่ตัว ติดสินบน หน้าด้าน”
ล่าสุดเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 09.30 น. นางสาวสุพรรษา นวนสุวรรณ อายุ 27 ปี แม่ของเด็กชายวัย 4 ขวบ ที่ถูกกล่าวอ้างในโพสต์ดังกล่าว เดินทางไปที่ สภ.บางพลี พร้อมกับ ทนายความ เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใช้ facebook ที่โพสต์ภาพและข้อความดังกล่าว ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่คอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560
นางสาวสุพรรษา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุ ตนกำลังเก็บร้านค้าของตัวเองอยู่ จู่ๆก็มีคนมาแจ้งว่า ลูกชายวัย 4 ขวบไปใช้สีทาบ้าน ทารถของคู่กรณี ตนก็รีบไปดู พบว่ารถถูกทาสีจริงๆ เจ้าของรถบอกกับตนว่า มีเด็กสองคนเอาสีมาทารถ หนึ่งในสองคนคือลูกชายของตน ซึ่งก็เห็นว่าลูกชายตัวเปื้อนสีจริงๆ จึงบอกกับเจ้าของรถว่า ให้เจ้าของรถ ไปติดต่ออู่ ทำสีรถใหม่ ตนยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่คู่กรณีไม่ยินยอม และเรียกเงินค่าเสียหายจำนวน 35,000บาท แต่ตนเองไม่มีเงินมากถึงขนาดนั้น จึงบอกให้เรียกประกันมาเคลม และจะจ่ายค่าเสียหายตามที่ประกันแจ้งเท่านั้น
ตอนนั้นคิดว่าเจ้าของรถน่าจะไม่พอใจ ที่ตนไม่ยอมจ่ายตามที่เรียกร้อง แต่ก็เรียกประกันมา เจ้าหน้าที่ประกันจะให้ตนเองเซ็นรับผิดฝ่ายเดียว ตนก็ไม่ยอมเซ็น เพราะเจ้าของรถบอกเองว่ามีเด็กสองคนเป็นคนทำ จะมาให้ตนเซ็นรับผิดฝ่ายเดียวได้อย่างไร เมื่อตกลงกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงไปคุยกันที่ สภ.บางพลี และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ได้ข้อสรุปว่า จะให้ประกันดำเนินการขัดสีรถ แล้วเรียกเก็บค่าเสียหายตามจริง ก่อนจะแยกย้ายกันไป
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น มีเพื่อนมาแจ้งว่า คู่กรณีนำภาพรถ และภาพใบหน้าลูกชายของตนไปโพสต์ในโลกออนไลน์ และยังโพสต์ข้อความบินเบือน จนตนเองได้รับความเสียหาย
เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ทางครอบครัวรู้สึกเครียด ยิ่งลูกชายตนพูดว่า “หนูไม่อยากโดนตำรวจจับ” ยิ่งทำให้ตนสะเทือนใจมาก นางสาวสุพรรษายืนยันว่า ตนยินดีรับผิดชอบค่าเสียหาย แต่ขอให้เป็นจำนวนเงินตามที่เกิดขึ้นจริง แต่การที่อีกฝ่าย นำภาพลูกชายไปโพสต์ในทางเสียหาย ไม่เป็นความจริง ทำให้ตนยอมไม่ได้ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ชมคลิปคลิกลิ้งค์ด้านลง
www.morning-news.bectero.com